Yamaha GT-2000 ของคุณ สันติ

Yamaha GT - 2000

Yamaha YA 39 Tonearm

Ortofon SPU GM E MK2 Phono Cartridge

ของ คุณ สันติ

                         Yamaha GT-2000

     GT-2000 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการเล่นที่มีความคุ้มค่ามากกับเงินที่จ่ายไปเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องในรุ่นปัจจุบัน ..... ผลิตปี 1982 เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงไซส์ขนาดใหญ่ GT ( Gigantic and Tremendous ) D=54.5x39.5x12.5 cm น้ำหนักรวม =28 kg.....และที่โดดเด่นมากๆก็คือแพล็ตเตอร์ขนาดใหญ่เกือบ 15 นี้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 37.4 cm หนา 3.5 cm

      แพล็ตเตอร์อลูมีเนียมเคลือบ Anodized ขนาดเกือบ 15 นี้ว หนัก 5.8 kg นอกจากจะทำให้ดูแกรนด์แล้วยังมีผลต่อความสะเถียรของรอบการหมุนที่ดีกว่าแพล็ตเตอร์ขนาด 12 นี้วทั่วๆไป และยังมีผลต่อเวทีเสียงที่มักจะเปิดกว้างไหลลื่นกว่าอีกด้วย

      YA-39 Tonearm คือโทนอาร์มมาตรฐานที่ติดมากับเครื่อง GT-2000 เป็นโทนอาร์มขนาด 10.5 นี้ว มีระบบ auto stop มาให้ด้วย โดยสามารถตั้งค่าได้ด้วยตนเองว่า จะให้อาร์มยกในตำแหน่งไหนของแผ่นได้เลยตามต้องการ และยังเป็นโทนอาร์มที่ปรับจูน VTA ได้ง่ายมากเช่นกัน

     Effective lenght =262 mm

     Spindle to pivot =248 mm

     Overhang = 14 mm

     Effective mass = 22 g

           GT-2000 เป็นเครื่องที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ Direct drive ควบคุมความเที่ยงตรงด้วย Quartz lock สปีดของการหมุนจึงมีความเที่ยงตรงมาก ..... ในระบบ quartz lock จะมีอยู่แค่สองแนวทางเท่านั้นก็คือ ตรงเป๊ะ กับ เพี้ยนใช้ไม่ได้ไปเลย จะไม่มีคำว่าพอใช้ได้

          โดยบุคลิกตามธรรมชาติของเครื่องในระบบ direct drive ก็คือจะออกไปทางเที่ยงตรง ชัดเจน กระชับ ปลายเสียงจะห้วนกว่าเครื่องในระบบ Belt drive และ Rim drive โดยเฉพาะในตัวเครื่องขนาดเล็ก เสียงจะฟังออกแข็งๆด้วยซ้ำ.....แต่ด้วยการชดเชยด้วยตัวแท่นเครื่องขนาดใหญ่ที่ทำมาจาก Particle board ที่เป็นไม้อัด มีโครงสร้างที่มีเนื่อหยาบ ฟู เป็นโพรงอากาศเยอะ ทำให้ลดความกระด้างของเสียงไปได้มาก ประกอบกับการมีแพล็ตเตอร์ขนาดใหญ่ มีผลให้เรโซแนนซ์โดยรวมของเครื่องผสมกลมกลืน เพิ่มเป็นความอวบใหญ่ของเนื้อเสียงและมีฮาร์โมนิคตามมา ทำให้ลดความแข็งกระด้างของปลายเสียง ฟังได้ผ่อนคลายใกล้เคียงมากกับเครื่องในระบบ Belt drive และ Rim drive

            ราคาปัจจุบันในท้องตลาดเฉลี่ยประมาณ ห้าหมื่นบาท ถือว่าไม่แพง ถ้าเทียบกับรูปลักษณ์และคุณภาพระดับนี้ ถ้าเป็นเครื่องสมัยปัจจุบัน อาจต้องจ่ายใกล้ๆสองแสนบาทเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Visitors: 144,875